สิ่งที่เรียนรู้
วันนี้เป็นการนำเสนอผลงานเวบเควสท์ที่ได้ทำเป็นคู่ให้อาจารย์แนะนำ
เว็บเควสท์ของเราได้ทำเรื่อง easy german for beginner โดยใ้ช้ธีมของงานเป็นโทนสีของธงชาติเยอรมัน
คือ ดำ แดง เหลือง โดยสีดำนั้น จะใช้เป็นส่วนน้อย จะใช้โทนสีเทาเข้ามาช่วยแทน
ความคืบหน้าในการดำเนินงาน ตอนนี้ถือว่า 50% ค่ะ หลังจากที่ได้นำเสนอให้อาจารย์และ พี่ TA ช่วยแนะนำ
ก็มีความผิดพลาดค่อนข้างเยอะ เช่น size ของต่ละส่วนนั้น ขนาดใหญ่เกินไป และการทำ link ยังไม่สมบูรณ์
เมื่ออาจารย์ได้แนะนำแล้ว ทำให้เราสามารถพัฒนาผลงานต่อไปได้อย่างดค่ะ นอกจากนี้เรายังได้เห็นผลงานของเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มที่ดูอลังการงานสร้างกันมากๆ ก็ทำให้เรามีกำลังใจ และแรงผลักดันในการทำผลงานของเราให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และทำให้สำเร็จตรงตามเป้าหมายค่ะ
สิ่งที่จะทำเพิ่มเติม
ปรับปรุงผลงานของเราให้ดีขึ้น ตามคำแนะนำของอาจารย์และพี่ TA
เพิ่มเติม เนื้อหา และลิ้งต่างๆ ในแต่ละหน้า
ข้อเสนอแนะ
การที่อาจารย์ได้ให้ทุกๆคนออกมานำเสนอความคืบหน้าของผลงานตัวเอง เป็นวิธีที่ดีมากๆค่ะ เพราะทำให้เราได้ค่อยๆทะยอยทำงาน ไปทีละเล็กละน้อย และสามารถแก้ไขงานได้เรื่อยๆ ไม่ทำให้เราติดนิสัยเดิมๆกัน ที่จะชอบดองงานจนถึงวันสุดท้าย นอกจากนี้ยังทำให้เรามีความกะตือรือร้นในการทำงานมากยิ่งขึ้นค่ะ ^^
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 5
สิ่งที่ได้เรียนรู้
วิธีการทำเว็บเควสท์ โดยใช้โปรแกรม DreamWeaver
ทั้งการสร้างหน้าเว็บ และการลิงค์ไปยังหน้าต่างๆ
การตั้งค่า Site
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะลงมือสร้างwebsiteใน Dream Weaver จะทำให้ไฟล์ที่สร้างรวมอยู่ที่เดียวกัน และเชื่อมโยงกับไฟล์ต่างๆ
- เปิดโปรแกรม Dream Weaver
- menu site >> manage sites >> new >> site >> ระบุ site ที่ต้องการ >> เราจะสร้าง web ที่เป็น html ให้คลิก no >> ระบุตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ >> ตั้งค่า remote server ให้เลือก none >> done
- กลับมาที่หน้า manage site ให้เลือก site ที่เราสร้าง >> Done
- สร้างเว็บมาหนึ่งอัน โดย >> create new >> html >> file >> save as >> save
ไฟล์จะถูกบันทึกไว้ใน folder ที่เราตั้งค่าไว้
การตั้งค่าภาษา
ก่อนที่จะสร้าง web เราต้องตั้งค่าภาษาให้สมบูรณ์เพื่อให้ web ของเราแสดงภาษาได้ถูกต้อง
ปัจจุบันได้เปลี่นร code ใหม่เป็น Unicode UTFS8 จาก window 874
- page properties >> title encoding >> Unicode UTFS8
การตั้งค่า webpage เบื้องต้น
-page properties
Appearance >> กำหนดการแสดงผลทั่วไป เช่น font ขนาด สี background
Link >> กำหนดตัวเชื่อมโยงใน webpage เช่น สีของ font
Heading >> กำหนดรูปแบบหัวข้อที่ใช้ใน webpage
Title & Encoding >> ตั้งชื่อให้หัวของ webpage ที่อยู่บน web browser , ตั้งค่าภาษา
Tracing Image >> นำเอาภาพมาวางบนหน้า website ภาพจะเหมือนแผ่นใส จะไม่มีรูปจริงบน web browser ของเรา
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
แก้ไขผลงานเว็บเควสท์ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ทบทวนการใช้งาน DreamWeaver จากคลิปที่อาจารย์ได้จัดทำมาให้
ข้อเสนอแนะ
-การเรียนที่สาธิตในห้องเรียน ทำให้งง ตามไม่ทันค่ะ แล้วก็ไม่รู้เรื่องด้วย การเรียนแบบที่ดูตามคลิปที่อาจารย์ทำมาจะเข้าใจมากกว่าค่ะ เพราะสามารถทำตามได้และถูกต้อง
แต่เมื่อมาแสดงตัวอย่างให้ดู กลับทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ สับสน และงงมากๆด้วยค่ะ น่าจะต่างคนต่างทำ ตามคลิปที่อาจารย์สอนจะดีกว่า เพราะทำตามความสามารถของตัวเอง ไม่ต้องรีบ ร้อนรนตามที่เพื่อนมาสาธิตให้ดูด้วยค่ะ
-คลิปที่อาจารย์จทำขึ้นมา เข้าใจง่ายดีค่ะ สามารถเรียนที่บ้านได้ โดยที่ไม่ต้องมาเรียนในห้องเรียนค่ะ
วิธีการทำเว็บเควสท์ โดยใช้โปรแกรม DreamWeaver
ทั้งการสร้างหน้าเว็บ และการลิงค์ไปยังหน้าต่างๆ
การตั้งค่า Site
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะลงมือสร้างwebsiteใน Dream Weaver จะทำให้ไฟล์ที่สร้างรวมอยู่ที่เดียวกัน และเชื่อมโยงกับไฟล์ต่างๆ
- เปิดโปรแกรม Dream Weaver
- menu site >> manage sites >> new >> site >> ระบุ site ที่ต้องการ >> เราจะสร้าง web ที่เป็น html ให้คลิก no >> ระบุตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ >> ตั้งค่า remote server ให้เลือก none >> done
- กลับมาที่หน้า manage site ให้เลือก site ที่เราสร้าง >> Done
- สร้างเว็บมาหนึ่งอัน โดย >> create new >> html >> file >> save as >> save
ไฟล์จะถูกบันทึกไว้ใน folder ที่เราตั้งค่าไว้
การตั้งค่าภาษา
ก่อนที่จะสร้าง web เราต้องตั้งค่าภาษาให้สมบูรณ์เพื่อให้ web ของเราแสดงภาษาได้ถูกต้อง
ปัจจุบันได้เปลี่นร code ใหม่เป็น Unicode UTFS8 จาก window 874
- page properties >> title encoding >> Unicode UTFS8
การตั้งค่า webpage เบื้องต้น
-page properties
Appearance >> กำหนดการแสดงผลทั่วไป เช่น font ขนาด สี background
Link >> กำหนดตัวเชื่อมโยงใน webpage เช่น สีของ font
Heading >> กำหนดรูปแบบหัวข้อที่ใช้ใน webpage
Title & Encoding >> ตั้งชื่อให้หัวของ webpage ที่อยู่บน web browser , ตั้งค่าภาษา
Tracing Image >> นำเอาภาพมาวางบนหน้า website ภาพจะเหมือนแผ่นใส จะไม่มีรูปจริงบน web browser ของเรา
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
แก้ไขผลงานเว็บเควสท์ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ทบทวนการใช้งาน DreamWeaver จากคลิปที่อาจารย์ได้จัดทำมาให้
ข้อเสนอแนะ
-การเรียนที่สาธิตในห้องเรียน ทำให้งง ตามไม่ทันค่ะ แล้วก็ไม่รู้เรื่องด้วย การเรียนแบบที่ดูตามคลิปที่อาจารย์ทำมาจะเข้าใจมากกว่าค่ะ เพราะสามารถทำตามได้และถูกต้อง
แต่เมื่อมาแสดงตัวอย่างให้ดู กลับทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ สับสน และงงมากๆด้วยค่ะ น่าจะต่างคนต่างทำ ตามคลิปที่อาจารย์สอนจะดีกว่า เพราะทำตามความสามารถของตัวเอง ไม่ต้องรีบ ร้อนรนตามที่เพื่อนมาสาธิตให้ดูด้วยค่ะ
-คลิปที่อาจารย์จทำขึ้นมา เข้าใจง่ายดีค่ะ สามารถเรียนที่บ้านได้ โดยที่ไม่ต้องมาเรียนในห้องเรียนค่ะ
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 4
สิ่งที่ได้เรียนรู้
- หลักการในการออกแบบเว็บเควสท์ที่เพื่อนๆได้ทำมา ทำให้เราได้ตัวอย่างดีๆ และคำแนะนำของเพื่อนๆ และอาจารย์ เพื่อนำกลับไปปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
1. การทำ Image Ready สนุกดีค่ะ ดูไม่ยากเลย อาจารย์อธิบายละเอียดดีค่ะ
2. การใช้ Slice ในการสร้าง web
3. วิธีการกำหนดการเชื่อมโยงให้กับ Slice
-คลิกขวาที่ Slice ที่เราจะลิงค์ไป
-ช่อง url ให้ระบุ web ที่เราลิงค์
-ช่อง target ระบุรูปแบบการ link
-Message Text ระบุข้อความที่แสดงเมื่อเม้าส์อยู่เหนือช่อง
-Alt Tag ระบุข้อความกำกับภาพ
4.การบันทึก Slice เป็น Webpage
-file >> save for web >> กำหนดเป็น JPEG เพื่อไฟล์จะมีขนาดเล็ก และคุณภาพสีดี
-HTML & Imagesw >> ผลที่ได้ไฟล์จะเป็น .html
ภาพจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆตามที่เรา slice ไว้
แต่ถ้าดูใน browser ก็จะเป็น web ปกติ แล้วก็สามารถ link ไปหน้าอื่นๆได้
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- ปรับปรุงเนื้อหาให้มีลักษณะที่เป็น webquest จริงๆ
- ค้นคว้าและรวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวกับ ประเทศเยอรมันที่จะทำลง webquest ให้มากยิ่งขึ้น
- ออกแบบ หน้าwebquest ใหม่ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
-วันนี้เรียนสบายๆดีค่ะ ดูไม่ยาก ไม่รนในการทำงาน
-ชอบที่อาจารย์มีสอน ImageReady เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะใช้โปรแกรมนี้หรือว่า SwishMax ดี
แต่จะลองทำ ImageReady ตามที่อาจารย์ได้สอนดูค่ะ เพราะดูเหมือนจะไม่ยากมาก
-อยากให้อาจารย์สอน SwishMax ด้วยค่ะ ^^
- หลักการในการออกแบบเว็บเควสท์ที่เพื่อนๆได้ทำมา ทำให้เราได้ตัวอย่างดีๆ และคำแนะนำของเพื่อนๆ และอาจารย์ เพื่อนำกลับไปปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
1. การทำ Image Ready สนุกดีค่ะ ดูไม่ยากเลย อาจารย์อธิบายละเอียดดีค่ะ
2. การใช้ Slice ในการสร้าง web
3. วิธีการกำหนดการเชื่อมโยงให้กับ Slice
-คลิกขวาที่ Slice ที่เราจะลิงค์ไป
-ช่อง url ให้ระบุ web ที่เราลิงค์
-ช่อง target ระบุรูปแบบการ link
-Message Text ระบุข้อความที่แสดงเมื่อเม้าส์อยู่เหนือช่อง
-Alt Tag ระบุข้อความกำกับภาพ
4.การบันทึก Slice เป็น Webpage
-file >> save for web >> กำหนดเป็น JPEG เพื่อไฟล์จะมีขนาดเล็ก และคุณภาพสีดี
-HTML & Imagesw >> ผลที่ได้ไฟล์จะเป็น .html
ภาพจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆตามที่เรา slice ไว้
แต่ถ้าดูใน browser ก็จะเป็น web ปกติ แล้วก็สามารถ link ไปหน้าอื่นๆได้
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- ปรับปรุงเนื้อหาให้มีลักษณะที่เป็น webquest จริงๆ
- ค้นคว้าและรวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวกับ ประเทศเยอรมันที่จะทำลง webquest ให้มากยิ่งขึ้น
- ออกแบบ หน้าwebquest ใหม่ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
-วันนี้เรียนสบายๆดีค่ะ ดูไม่ยาก ไม่รนในการทำงาน
-ชอบที่อาจารย์มีสอน ImageReady เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะใช้โปรแกรมนี้หรือว่า SwishMax ดี
แต่จะลองทำ ImageReady ตามที่อาจารย์ได้สอนดูค่ะ เพราะดูเหมือนจะไม่ยากมาก
-อยากให้อาจารย์สอน SwishMax ด้วยค่ะ ^^
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 3
สิ่งที่ได้เรียนรู้
ADDIE Model >> ISD Model
1. Analyze : การวิเคราะห์ ประกอบด้วย 3 หัวข้อย่อยๆ คือ
- goal : วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน
-audience : วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
-environment : วิเคราะห์บริบทต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เป็นต้น
2. Design : การออกแบบ
- site structure
- storyboard
- interface design
*rapid prototype >> การออกแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะไปพัฒนาจริง
3. Develop : การพัฒนา เป็นขั้นตอนที่เชื่อมต่อจาก rapid prototype ถ้าได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะดำเนินการต่อไปได้
- tools : ซอฟแวร์ที่มีทั้งเสียง วิดิโอ
- team : ทีมในการออกแบบเว็บ ทีมกราฟิก ทีมตัดต่อ เป็นต้น
4. Implement : การนำไปใช้
- pilots : การนำไปทดลองใช้ เพื่อนำฟีดแบคมาปรับปรุงกับงานของเรา
- rollout plan
5. Evaluation : การประเมินผล
- SMES : ดูทั้งด้านเนื้อหาต่างๆ
- audience : บทเรียนของเราเมื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไรบ้าง
Analyze
การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน ผู้เรียน พื้นฐานของผู้เรียน เนื้อหา แหล่งข้อมูล สื่อที่เหมาะสม
Design
การกำหนดโครงสร้าง แผน ขั้นตอนการดำเนินงาน และการประเมินบทเรียนอย่างเป็นระบบ
Development
ดำเนินการตาม storyboard ที่เราได้ร่างไว้
Implementation
การนำบทเรียนที่สร้างเสร็จไปใช้จริง กับกลุ่มเป้าหมายของเรา คืออาจเป็นทั้งผู้สอน และผู้เรียนก็ได้
Evaluation
การประเมินผลระหว่างขั้นตอนพัฒนา เพื่อเป็นการนำข้อมูลไปปรับปรุง ในการดำเนินงานครั้งต่อไป
การประเมินผลเมื่อพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เป็นการเปิดโอกาสความคิดเห็นจากผู้ที่ใช้งานจริง ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนนั้นหรือไม่
GAGNE
1. Gain Attention : เรียกความสนใจจากผู้เรียน นำวิดิโอ ภาพ เสียง มาใช้ในการเรียนการสอน
2. Inform learners Objects : แจ้งให้ผู้เรียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียนนั้นๆ
3. Stimulate recall of prior learning : การกระตุ้นความรู้เดิม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ เช่น .
การทำ pre-test การถามตอบ
4. Present the content : การนำเสนอเนื้อหา อาจเป็นpowerpoint , e-book
5. Provide learning guidance : การให้คำแนะนำระหว่างการเรียน ผู้สอนสามารถโพสท์คำถามที่พบบ่อยๆ
หรือตั้งปุ่ม help
6. Elicit performance : กาตตรวจสอบดูว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ สามารถใช้ discussion board หรือ
email
7. Provide feedback : สามารถผ่านใช้ผ่านทาง email, discussion board ก็ได้
8. Assess performance : การประเมินผลว่าผู้เรียนบรรลุตรงตามวัตถุงประสงค์ของเราหรือไม่ ควรมีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น เช็กจากการเข้ารวมกิจกรรมที่ผู้สอนได้จัดไว้
9. Enhance retention & transfer to the job : การนำไปใช้ในชีวิตจริง
หลักในการออกแบบ WBI
1. เนื้อหา
-กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
-เลือกสี ข้อความ ภาพที่เหมาะสม
-การใช้หัวข้อใหญ่ และย่อย เพื่อแยกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน
-ใช้ภาษาที่ง่าย กระชับ
-นำสื่อประสมมาใช้ เช่น ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดิโอ เพื่อดึงดูดความสนใจ
-การใช้ตาราง ทำให้เกิดความชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
2. กิจกรรม
จะส่งเสริมให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-ประสานเวลา เช่น chat
-ไม่ประสานเวลา เช่น การสื่อสารผ่าน email, blog
-ร่วมมือ เช่น นำทั้งสองอย่างข้างต้นมาผสมผสานกัน
Page Design
1. Simplicity
รูปแบบที่เรียบง่าย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ภาพเคลื่อนไหวมีไม่มาก เพราะอาจจะรบกวนสายตาของผู้ชมได้
2. Consistency
การสร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์ คือสร้างเป็นรูปแบบเดียวกัน โทนสี ตลอดเดียวกันทั้งเว็บไซต์
3. โทนสี
การเลือกใช้สี มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะให้ความรู้สึก- อารมณ์ - กระตุ้นต่อการรับรู้ต่อผู้ที่เข้าเว็บไซต์ได้เช่นกัน การสร้างสีสันบนเว็บสามารถสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
การออกแบบระบบนำทาง
เป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่หลงทาง
เครื่องนำทาง - เครื่องมือซึ่งให้ผู้ชมเปิดไปยังเว็บเพจภายในเว็บไซต์ มีเมนูหลัก เมนูเฉพาะกลุ่ม
เครื่องมือเสริม
-เข้าถึงง่าย
-สื่อความหมายชัดเจน
-ตอบสนองผู้ใช้
-มีทางเลือกหลากหลาย
-มีลิงค์กลับไปโฮมเพจได้
สิ่งที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
-กลับไปลองออกแบบเว็บเควสท์ของตนเอง
-หาเนื้อหาเพิ่มเติมที่จะทำเว็บเควสท์
ข้อเสนอแนะ
งานเยอะเกินไปค่ะ อาจารย์ ดูสับสนมาก ทำให้ดูน่าเบื่อในการเรียนด้วยค่ะ
การทำงานควรจะให้เป็นงานคู่ค่ะ ไม่ควรทำคนเดียว เพราะเนื้อหา และขั้นตอนในการทำเยอะมาก
อีกทั้งยังมีคนช่วยในการทำงาน และคิดว่างานน่าจะออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นกว่าทำคนเดียว ที่ต้องมีภาระงานอื่นๆเพิ่มเข้ามามากมายค่ะ :):)
ADDIE Model >> ISD Model
1. Analyze : การวิเคราะห์ ประกอบด้วย 3 หัวข้อย่อยๆ คือ
- goal : วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน
-audience : วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
-environment : วิเคราะห์บริบทต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เป็นต้น
2. Design : การออกแบบ
- site structure
- storyboard
- interface design
*rapid prototype >> การออกแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะไปพัฒนาจริง
3. Develop : การพัฒนา เป็นขั้นตอนที่เชื่อมต่อจาก rapid prototype ถ้าได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะดำเนินการต่อไปได้
- tools : ซอฟแวร์ที่มีทั้งเสียง วิดิโอ
- team : ทีมในการออกแบบเว็บ ทีมกราฟิก ทีมตัดต่อ เป็นต้น
4. Implement : การนำไปใช้
- pilots : การนำไปทดลองใช้ เพื่อนำฟีดแบคมาปรับปรุงกับงานของเรา
- rollout plan
5. Evaluation : การประเมินผล
- SMES : ดูทั้งด้านเนื้อหาต่างๆ
- audience : บทเรียนของเราเมื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไรบ้าง
Analyze
การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน ผู้เรียน พื้นฐานของผู้เรียน เนื้อหา แหล่งข้อมูล สื่อที่เหมาะสม
Design
การกำหนดโครงสร้าง แผน ขั้นตอนการดำเนินงาน และการประเมินบทเรียนอย่างเป็นระบบ
Development
ดำเนินการตาม storyboard ที่เราได้ร่างไว้
Implementation
การนำบทเรียนที่สร้างเสร็จไปใช้จริง กับกลุ่มเป้าหมายของเรา คืออาจเป็นทั้งผู้สอน และผู้เรียนก็ได้
Evaluation
การประเมินผลระหว่างขั้นตอนพัฒนา เพื่อเป็นการนำข้อมูลไปปรับปรุง ในการดำเนินงานครั้งต่อไป
การประเมินผลเมื่อพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เป็นการเปิดโอกาสความคิดเห็นจากผู้ที่ใช้งานจริง ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนนั้นหรือไม่
GAGNE
1. Gain Attention : เรียกความสนใจจากผู้เรียน นำวิดิโอ ภาพ เสียง มาใช้ในการเรียนการสอน
2. Inform learners Objects : แจ้งให้ผู้เรียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียนนั้นๆ
3. Stimulate recall of prior learning : การกระตุ้นความรู้เดิม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ เช่น .
การทำ pre-test การถามตอบ
4. Present the content : การนำเสนอเนื้อหา อาจเป็นpowerpoint , e-book
5. Provide learning guidance : การให้คำแนะนำระหว่างการเรียน ผู้สอนสามารถโพสท์คำถามที่พบบ่อยๆ
หรือตั้งปุ่ม help
6. Elicit performance : กาตตรวจสอบดูว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ สามารถใช้ discussion board หรือ
7. Provide feedback : สามารถผ่านใช้ผ่านทาง email, discussion board ก็ได้
8. Assess performance : การประเมินผลว่าผู้เรียนบรรลุตรงตามวัตถุงประสงค์ของเราหรือไม่ ควรมีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น เช็กจากการเข้ารวมกิจกรรมที่ผู้สอนได้จัดไว้
9. Enhance retention & transfer to the job : การนำไปใช้ในชีวิตจริง
หลักในการออกแบบ WBI
1. เนื้อหา
-กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
-เลือกสี ข้อความ ภาพที่เหมาะสม
-การใช้หัวข้อใหญ่ และย่อย เพื่อแยกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน
-ใช้ภาษาที่ง่าย กระชับ
-นำสื่อประสมมาใช้ เช่น ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดิโอ เพื่อดึงดูดความสนใจ
-การใช้ตาราง ทำให้เกิดความชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
2. กิจกรรม
จะส่งเสริมให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-ประสานเวลา เช่น chat
-ไม่ประสานเวลา เช่น การสื่อสารผ่าน email, blog
-ร่วมมือ เช่น นำทั้งสองอย่างข้างต้นมาผสมผสานกัน
Page Design
1. Simplicity
รูปแบบที่เรียบง่าย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ภาพเคลื่อนไหวมีไม่มาก เพราะอาจจะรบกวนสายตาของผู้ชมได้
2. Consistency
การสร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์ คือสร้างเป็นรูปแบบเดียวกัน โทนสี ตลอดเดียวกันทั้งเว็บไซต์
3. โทนสี
การเลือกใช้สี มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะให้ความรู้สึก- อารมณ์ - กระตุ้นต่อการรับรู้ต่อผู้ที่เข้าเว็บไซต์ได้เช่นกัน การสร้างสีสันบนเว็บสามารถสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
การออกแบบระบบนำทาง
เป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่หลงทาง
เครื่องนำทาง - เครื่องมือซึ่งให้ผู้ชมเปิดไปยังเว็บเพจภายในเว็บไซต์ มีเมนูหลัก เมนูเฉพาะกลุ่ม
เครื่องมือเสริม
-เข้าถึงง่าย
-สื่อความหมายชัดเจน
-ตอบสนองผู้ใช้
-มีทางเลือกหลากหลาย
-มีลิงค์กลับไปโฮมเพจได้
สิ่งที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
-กลับไปลองออกแบบเว็บเควสท์ของตนเอง
-หาเนื้อหาเพิ่มเติมที่จะทำเว็บเควสท์
ข้อเสนอแนะ
งานเยอะเกินไปค่ะ อาจารย์ ดูสับสนมาก ทำให้ดูน่าเบื่อในการเรียนด้วยค่ะ
การทำงานควรจะให้เป็นงานคู่ค่ะ ไม่ควรทำคนเดียว เพราะเนื้อหา และขั้นตอนในการทำเยอะมาก
อีกทั้งยังมีคนช่วยในการทำงาน และคิดว่างานน่าจะออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นกว่าทำคนเดียว ที่ต้องมีภาระงานอื่นๆเพิ่มเข้ามามากมายค่ะ :):)
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 2
สิ่งที่ได้เรียนรู้
WebQuest
เป็นนวัตกรรม ที่ให้ผู้เรียนใช้ข้อมูลออนไลน์ในการเรียนการสอนแบบสืบสอบ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน
- บทนำ : บอกคร่าวๆว่าเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ และชวนให้ติดตามเนื้อหา
- ภาระงาน : ผลลัพธ์ที่นักเรียนต้องทำเมื่อจบกิจกรรม
- กระบวนการทำงาน : ให้ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ควรเขียนเป็นข้อๆ
- ประเมิน : แสดงเกณฑ์ในการตัดสิน
- สรุป : เมื่อจบกิจกรรมควรสรุปความสำคัญเนื้อหา ว่าเด็กได้อะไรไปบ้าง
สรุป WebQuest
- เป็นการอาศัยการเชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลที่จำเป็นบนเว็บ
- การประเมินตามสภาพจริง กระตุ้นให้นักเรียนใช้วิธีสำรวจ ตรวจสอบ
- เปิดคำถามปลายเปิด
- การเข้าร่วมกระบวนการกลุ่ม การแปลงสารสนเทศให้เข้าใจง่าย
- เมื่อนักเรียนเข้าไปอยู่ในกลุ่มจะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญว่าเราเหมาะในด้านใด
Web2.0
คือ เป็นคำที่อธิบายถึงลักษณะของเทคโนโลยีเวิลด์ไวด์เว็บ และการออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบัน ที่มีลักษณะแบ่งปันข้อมูล การพัฒนาในด้านแนวความคิดและการออกแบบ รวมถึงการร่วมสร้างข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต
Tim O'Reilly ได้แสดงตัวอย่างของระดับของ Web 2.0 ออกเป็น 4 ระดับคือ
ระดับ 3
ระดับการใช้งานทั่วไปจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ต เป็นการสื่อสารของมนุษย์ภายใต้เว็บไซต์เดียวกัน เช่น Wikipedia Skype
ระดับ 2
การใช้งานทั่วไป โดยไม่ต้องผ่านอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อนำมาใช้งานออนไลน์ จะมีประโยชน์มากขึ้นจากการเชื่อมโยงผู้ใช้งานเข้าด้วยกัน เช่น Flickr
ระดับ 1
การใช้งานทั่วไปที่ใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านอินเตอร์เน็ต แต่มีความสามารถเพิ่มขึ้นมีนำมาใช้งานออนไลน์ เช่น iTunes
ระดับ 0
สามารถใช้ได้ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ เช่น Google Maps
Web application tools
เป็นเครื่องมือที่ทำงานบนหน้าเว็บ จะคอยอำนวยความสะดวกในการใช้งานต่างๆบนเว็บไซต์ คือ
- Blog
- Social Bookmarking
- RSS Feed
- Widgets
- Mashup
Communication tools
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางและรูปแบบในการติดต่อสื่อสารให้หลากหลายขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและส่งข้อมูล
- Chat/Shoutbox
- Instant Messenging
- Skype
- Podcast
- Audiographics
Community tools
เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ส่งเสริมให้เกิดสังคมออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ตขึ้น ทำให้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมีโอกาส มีสถานที่ เพื่อใช้แลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลร่วมกัน ได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันผ่านทางเครื่องมือต่างๆ
- Webboard
- Wiki
- Social Networking
- Second Life
File sharing tools
เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ช่วยในการแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ของผู้ใช้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนของข้อมูลข่าวสาร ขยายช่องทางในการส่งข้อมูล การแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันทำให้เกิดความประหยัดค่าใช้จ่าย เวลาและทรัพยากร
- Photo sharing
- Video sharing
- Music sharing
- Document sharing
- File Sharing
ประโยชน์ที่ได้รับในการพัฒนาบทเรียนเว็บเควสต์ของตนเอง
- ได้เห็นจุดเด่น และจุดด้อยของเว็บเควสต์แต่ละอัน ซึ่งเราสามารถนำมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับผลงานของเราได้ เช่น
เว็บของต่างประเทศจุดเด่นจะอยู่ที่ introduction ที่น่าสนใจ แต่รูปแบบของเว็บนั้น ไม่มีรูปภาพประกอบ มีเพียงตัวหนังสือ
ในทางตรงกันข้ามเว็บของไทยรูปแบบจะน่าสนใจ สีสันสดใส ดึงดูดผู้เรียนได้เป็นอย่างดี แต่เนื้อหาภายในไม่ค่อยดีนัก
ชื่อเรื่อง : สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเยอรมัน
กลุ่มเป้าหมาย
- บุคคลทั่วไปที่สนใจ
- นักเรียนที่ศึกษาภาษาเยอรมัน
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเยอรมันมากยิ่งขึ้น
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจในประเทศเยอรมัน เมื่อศึกษาเว็บเควสต์นี้แล้วจะกระตุ้นความสนใจมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ไปศึกษา หรือเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมัน
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเยอรมันมากยิ่งขึ้น
บทนำ
-กล่าวถึงเมืองแต่ละเมืองในประเทศเยอรมันว่ามี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ภาระงาน
- ให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยหัวข้อที่ทำให้เกี่ยวกับเมืองที่ตนใฝ่ฝันอยากจะไปท่องเที่ยว พร้อมทั้งแทรกวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน โดยให้ผลงานออกมาในลักษณะ คลิปวิดิโอ ซึ่งสามารถแสดงอกกมาได้หลากหลายเช่น แสดงละคร, รายการโทรทัศน์, รายงานข่าว หรือสารคดีเป็นต้น เวลาในการแสดงไม่ควรเกิน 10 นาที
- งานเดี่ยว ให้เขียนสรุปจากที่ได้ชมผลงานของเพื่อน
กระบวนการ
- นำผลงานที่ตนได้สร้างสรรค์ มาแสดงให้เพื่อนๆได้ชม
- ให้นักเรียนเขียนสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ ได้ออกมานำเสนอ
- หลังจากนั้นให้นักเรียน upload ขึ้น youtube เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงาน
ประเมินผล
- ใช้แบบ Rubric
สรุป
- ผู้สอนสรุปเนื้อหา สถานที่สำคัญในประเทศเยอรมัน รวมทั้งแทรกวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวเยอรมัน พร้อมทั้งการนำวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน มาประยุกต์ใช้กับบ้านเมืองของเรา ในทางที่เหมาะสม
WebQuest
เป็นนวัตกรรม ที่ให้ผู้เรียนใช้ข้อมูลออนไลน์ในการเรียนการสอนแบบสืบสอบ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน
- บทนำ : บอกคร่าวๆว่าเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ และชวนให้ติดตามเนื้อหา
- ภาระงาน : ผลลัพธ์ที่นักเรียนต้องทำเมื่อจบกิจกรรม
- กระบวนการทำงาน : ให้ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ควรเขียนเป็นข้อๆ
- ประเมิน : แสดงเกณฑ์ในการตัดสิน
- สรุป : เมื่อจบกิจกรรมควรสรุปความสำคัญเนื้อหา ว่าเด็กได้อะไรไปบ้าง
สรุป WebQuest
- เป็นการอาศัยการเชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลที่จำเป็นบนเว็บ
- การประเมินตามสภาพจริง กระตุ้นให้นักเรียนใช้วิธีสำรวจ ตรวจสอบ
- เปิดคำถามปลายเปิด
- การเข้าร่วมกระบวนการกลุ่ม การแปลงสารสนเทศให้เข้าใจง่าย
- เมื่อนักเรียนเข้าไปอยู่ในกลุ่มจะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญว่าเราเหมาะในด้านใด
Web2.0
คือ เป็นคำที่อธิบายถึงลักษณะของเทคโนโลยีเวิลด์ไวด์เว็บ และการออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบัน ที่มีลักษณะแบ่งปันข้อมูล การพัฒนาในด้านแนวความคิดและการออกแบบ รวมถึงการร่วมสร้างข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต
Tim O'Reilly ได้แสดงตัวอย่างของระดับของ Web 2.0 ออกเป็น 4 ระดับคือ
ระดับ 3
ระดับการใช้งานทั่วไปจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ต เป็นการสื่อสารของมนุษย์ภายใต้เว็บไซต์เดียวกัน เช่น Wikipedia Skype
ระดับ 2
การใช้งานทั่วไป โดยไม่ต้องผ่านอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อนำมาใช้งานออนไลน์ จะมีประโยชน์มากขึ้นจากการเชื่อมโยงผู้ใช้งานเข้าด้วยกัน เช่น Flickr
ระดับ 1
การใช้งานทั่วไปที่ใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านอินเตอร์เน็ต แต่มีความสามารถเพิ่มขึ้นมีนำมาใช้งานออนไลน์ เช่น iTunes
ระดับ 0
สามารถใช้ได้ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ เช่น Google Maps
Web application tools
เป็นเครื่องมือที่ทำงานบนหน้าเว็บ จะคอยอำนวยความสะดวกในการใช้งานต่างๆบนเว็บไซต์ คือ
- Blog
- Social Bookmarking
- RSS Feed
- Widgets
- Mashup
Communication tools
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางและรูปแบบในการติดต่อสื่อสารให้หลากหลายขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและส่งข้อมูล
- Chat/Shoutbox
- Instant Messenging
- Skype
- Podcast
- Audiographics
Community tools
เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ส่งเสริมให้เกิดสังคมออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ตขึ้น ทำให้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมีโอกาส มีสถานที่ เพื่อใช้แลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลร่วมกัน ได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันผ่านทางเครื่องมือต่างๆ
- Webboard
- Wiki
- Social Networking
- Second Life
File sharing tools
เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ช่วยในการแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ของผู้ใช้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนของข้อมูลข่าวสาร ขยายช่องทางในการส่งข้อมูล การแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันทำให้เกิดความประหยัดค่าใช้จ่าย เวลาและทรัพยากร
- Photo sharing
- Video sharing
- Music sharing
- Document sharing
- File Sharing
ประโยชน์ที่ได้รับในการพัฒนาบทเรียนเว็บเควสต์ของตนเอง
- ได้เห็นจุดเด่น และจุดด้อยของเว็บเควสต์แต่ละอัน ซึ่งเราสามารถนำมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับผลงานของเราได้ เช่น
เว็บของต่างประเทศจุดเด่นจะอยู่ที่ introduction ที่น่าสนใจ แต่รูปแบบของเว็บนั้น ไม่มีรูปภาพประกอบ มีเพียงตัวหนังสือ
ในทางตรงกันข้ามเว็บของไทยรูปแบบจะน่าสนใจ สีสันสดใส ดึงดูดผู้เรียนได้เป็นอย่างดี แต่เนื้อหาภายในไม่ค่อยดีนัก
ชื่อเรื่อง : สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเยอรมัน
กลุ่มเป้าหมาย
- บุคคลทั่วไปที่สนใจ
- นักเรียนที่ศึกษาภาษาเยอรมัน
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเยอรมันมากยิ่งขึ้น
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจในประเทศเยอรมัน เมื่อศึกษาเว็บเควสต์นี้แล้วจะกระตุ้นความสนใจมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ไปศึกษา หรือเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมัน
- เพื่อให้นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเยอรมันมากยิ่งขึ้น
บทนำ
-กล่าวถึงเมืองแต่ละเมืองในประเทศเยอรมันว่ามี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ภาระงาน
- ให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยหัวข้อที่ทำให้เกี่ยวกับเมืองที่ตนใฝ่ฝันอยากจะไปท่องเที่ยว พร้อมทั้งแทรกวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน โดยให้ผลงานออกมาในลักษณะ คลิปวิดิโอ ซึ่งสามารถแสดงอกกมาได้หลากหลายเช่น แสดงละคร, รายการโทรทัศน์, รายงานข่าว หรือสารคดีเป็นต้น เวลาในการแสดงไม่ควรเกิน 10 นาที
- งานเดี่ยว ให้เขียนสรุปจากที่ได้ชมผลงานของเพื่อน
กระบวนการ
- นำผลงานที่ตนได้สร้างสรรค์ มาแสดงให้เพื่อนๆได้ชม
- ให้นักเรียนเขียนสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ ได้ออกมานำเสนอ
- หลังจากนั้นให้นักเรียน upload ขึ้น youtube เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงาน
ประเมินผล
- ใช้แบบ Rubric
สรุป
- ผู้สอนสรุปเนื้อหา สถานที่สำคัญในประเทศเยอรมัน รวมทั้งแทรกวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวเยอรมัน พร้อมทั้งการนำวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน มาประยุกต์ใช้กับบ้านเมืองของเรา ในทางที่เหมาะสม
วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log week1
สิ่งที่ได้เรียนรู้
1 ได้ดูคลิป vdo ตัวอย่างที่อ.ได้แนะนำมา เกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ต ที่บอกถึงความเร็ว การเข้าถึง การแชร์ข้อมูลต่างๆ จำนวนของผู้คนที่เล่นอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจากที่เป็นคอมพิวเตอร์ ต่อไปก็จะกลายเป็นเพียงโทรศัพท์ เครื่องเดียวก็สามารถเล่นได้แล้ว และสามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา
2 วิวัฒนาการของการเรียนทางไกล
ผ่านไปรษณีย์
ผ่านโทรทัศน์
วิดิโอเทป ดาวเทียม
เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตบ้าง
ใช้เทคโนโลยีทุกประเภทของอินเตอร์เน็ต
3 องค์ประกอบ และ trend ของ WBI ประกอบด้วย 4 ส่วน
เนื้อหา
การติดต่อสื่อสาร
ระบบบริหารการเรียน (สนับสนุนให้ผู้เรียน เรียนรู้ด้วยตนเอง)
การประเมินผลการเรียน ก่อน-หลังเรียน และจากการปฏิบัติงาน
4 พัฒนาการ WBI
สมัยก่อนนั้นผ้เขียนเว็บจะต้องรู้เรื่องในภาษา html ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่ผู้เขียนจะไม่สามารถเห็นเว็บที่ตนเขียนจนกว่าจะทำจนเสร็จ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถเห็นหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องรอจนงานเสร็จ เช่น Dreamweaver, Joomla เป็นต้น
แนวทางการนำ web 2.0 ไปใช้ในการเรียนการสอน หรืออาจารย์ที่เคยใช้ในการเรียนการสอน
- จะกล่าวถึงวิชาเรียนคือ วิชา Basic Photo ที่ อ.ปราวีณยาเป็นผู้สอน
โดย อ.จะให้นร.ทำ multiply คือ เขียน blog และ อัพโหลดรูปภาพที่อ.ได้มอบหมายให้ไปถ่ายรูปมาลงไปในmultiply ของเรา ซึ่งเพื่อนๆ อาจารย์ รุ่นพี่ และบุคคลอื่นๆ สามารถเข้ามาชม และแนะนำผลงานของเราได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางให้เราพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้น
- ในอีกหนึ่งวิชาคือ Sound Project สอนโดย อ.เนาวนิตย์ อาจารย์ได้นำเทคโนโลยีซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ msn โปรแกรมแชตที่ได้รับความนิยมมานาน คือ โปรแกรม Skype ซึ่งจุดเด่นของโปรแกรมนี้คือ สามารถคุยกันได้เหมือนโทรศัพท์จริงๆ และเร็วกว่า msn หลายเท่า
โดยอ.ได้มอบหมายให้ไปคุยงานกันผ่าน skype และบางครั้ง อ.ก็เข้ามาฟังด้วยเช่นกัน เราสามารถตอบโต้กันได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการล่าช้าใดๆเลย นับว่าโปรแกรมนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก กับการเรียนในมหาวิทยาลัย เนื่องจาก นิสิตบางคนมีเวลาเรียน และงานที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้การนัดคุยงานนั้นยากมาก เมื่อมี Skype เราก็สามารถติดต่อกันได้ง่าย ซึ่ง msn ก็ทำได้เช่นกัน แต่จะล่าช้า และกระตุกเวลาสนทนากัน
- จากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น อ.ในมหาวิทยาลัยจะเน้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และคิดว่าเมื่อตนเองได้ไปฝึกสอนตามโรงเรียนต่างๆ นักเรียนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นก็จะสนใจในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าก็จะนำโปรแกรมต่างๆอย่างเช่น การเขียน blog มาใช้ในการเรียนการสอน คือ มอบหมายงาน ส่งงาน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา อีกทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนได้ดีกว่ากระดาษ ซึ่งอาจจะสูญหายได้เช่นกัน
สิ่งที่จะต้องค้นคว้าเพิ่มเติม
ศึกษารายละเอียด และวิธีการใช้งาน blogger , module ให้ละเอียดและเข้าใจมากกว่านี้ค่ะ
เพราะตอนนี้ ยังสับสนกับการใช้งานอยู่บ้าง
ข้อคิดเห็นอื่นๆ
ชอบแนวการเรียนแบบนี้ค่ะ อาจารย์ แต่ว่าสับสนมากๆเลย จะพยายามทำความเข้าใจกับโปรแกรมให้มากกว่านี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่แก้ไข blog แล้วส่งช้า เพราะหาวิีธีส่งไม่เจอค่ะ :'(:'(
1 ได้ดูคลิป vdo ตัวอย่างที่อ.ได้แนะนำมา เกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ต ที่บอกถึงความเร็ว การเข้าถึง การแชร์ข้อมูลต่างๆ จำนวนของผู้คนที่เล่นอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจากที่เป็นคอมพิวเตอร์ ต่อไปก็จะกลายเป็นเพียงโทรศัพท์ เครื่องเดียวก็สามารถเล่นได้แล้ว และสามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา
2 วิวัฒนาการของการเรียนทางไกล
ผ่านไปรษณีย์
ผ่านโทรทัศน์
วิดิโอเทป ดาวเทียม
เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตบ้าง
ใช้เทคโนโลยีทุกประเภทของอินเตอร์เน็ต
3 องค์ประกอบ และ trend ของ WBI ประกอบด้วย 4 ส่วน
เนื้อหา
การติดต่อสื่อสาร
ระบบบริหารการเรียน (สนับสนุนให้ผู้เรียน เรียนรู้ด้วยตนเอง)
การประเมินผลการเรียน ก่อน-หลังเรียน และจากการปฏิบัติงาน
4 พัฒนาการ WBI
สมัยก่อนนั้นผ้เขียนเว็บจะต้องรู้เรื่องในภาษา html ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่ผู้เขียนจะไม่สามารถเห็นเว็บที่ตนเขียนจนกว่าจะทำจนเสร็จ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถเห็นหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องรอจนงานเสร็จ เช่น Dreamweaver, Joomla เป็นต้น
แนวทางการนำ web 2.0 ไปใช้ในการเรียนการสอน หรืออาจารย์ที่เคยใช้ในการเรียนการสอน
- จะกล่าวถึงวิชาเรียนคือ วิชา Basic Photo ที่ อ.ปราวีณยาเป็นผู้สอน
โดย อ.จะให้นร.ทำ multiply คือ เขียน blog และ อัพโหลดรูปภาพที่อ.ได้มอบหมายให้ไปถ่ายรูปมาลงไปในmultiply ของเรา ซึ่งเพื่อนๆ อาจารย์ รุ่นพี่ และบุคคลอื่นๆ สามารถเข้ามาชม และแนะนำผลงานของเราได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางให้เราพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้น
- ในอีกหนึ่งวิชาคือ Sound Project สอนโดย อ.เนาวนิตย์ อาจารย์ได้นำเทคโนโลยีซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ msn โปรแกรมแชตที่ได้รับความนิยมมานาน คือ โปรแกรม Skype ซึ่งจุดเด่นของโปรแกรมนี้คือ สามารถคุยกันได้เหมือนโทรศัพท์จริงๆ และเร็วกว่า msn หลายเท่า
โดยอ.ได้มอบหมายให้ไปคุยงานกันผ่าน skype และบางครั้ง อ.ก็เข้ามาฟังด้วยเช่นกัน เราสามารถตอบโต้กันได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการล่าช้าใดๆเลย นับว่าโปรแกรมนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก กับการเรียนในมหาวิทยาลัย เนื่องจาก นิสิตบางคนมีเวลาเรียน และงานที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้การนัดคุยงานนั้นยากมาก เมื่อมี Skype เราก็สามารถติดต่อกันได้ง่าย ซึ่ง msn ก็ทำได้เช่นกัน แต่จะล่าช้า และกระตุกเวลาสนทนากัน
- จากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น อ.ในมหาวิทยาลัยจะเน้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และคิดว่าเมื่อตนเองได้ไปฝึกสอนตามโรงเรียนต่างๆ นักเรียนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นก็จะสนใจในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าก็จะนำโปรแกรมต่างๆอย่างเช่น การเขียน blog มาใช้ในการเรียนการสอน คือ มอบหมายงาน ส่งงาน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา อีกทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนได้ดีกว่ากระดาษ ซึ่งอาจจะสูญหายได้เช่นกัน
สิ่งที่จะต้องค้นคว้าเพิ่มเติม
ศึกษารายละเอียด และวิธีการใช้งาน blogger , module ให้ละเอียดและเข้าใจมากกว่านี้ค่ะ
เพราะตอนนี้ ยังสับสนกับการใช้งานอยู่บ้าง
ข้อคิดเห็นอื่นๆ
ชอบแนวการเรียนแบบนี้ค่ะ อาจารย์ แต่ว่าสับสนมากๆเลย จะพยายามทำความเข้าใจกับโปรแกรมให้มากกว่านี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่แก้ไข blog แล้วส่งช้า เพราะหาวิีธีส่งไม่เจอค่ะ :'(:'(
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552
GETTING TO KNOW

ชญาภา ฤดีสุนันท์ ( ตาล )
ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ สาขา มัธยม-ศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิชาเอก ภาษาเยอรมัน-เทคโน

สิ่งที่คาดหวังจากวิชานี้
ได้เรียนรู้วิธีการเขียน website เบื้องต้นโดยใช้โปรแกรมที่หลากหลาย
ได้เรียนรู้การออกแบบ website ให้น่าสนใจ
เข้าใจระบบ website และคำศัพท์เทคนิคต่างๆที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น
สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในวิชาเรียน หรือการงานในอนาคตได้

ประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์
หลังจากที่ได้เข้าเรียนในวิชาเอกเทคโน ก็ได้ใช้โปรแกรมที่หลากหลาย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ทั้งการตกแต่งภาพ การตัดต่อ การบันทึกเสียง การบันทึกหน้าจอ
ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการเรียนนั้นมีเยอะมาก และทำให้เราเห็นถึงคุณสมบัติของโปรแกรม
แต่ละชนิดว่าถึงจะมีหน้าที่เหมือนกัน แต่คุณภาพงานที่ออกมาก็แตกต่างกันด้วย
ซึ่งจะทำให้เราเลือกสามารถเลือกใช้โปรแกรมให้เหมาะสมกับงานของเรา
และคิดว่าการที่เราเรียนในด้านเทคโนโลยีนั้น ทำให้เราต้อง active อยู่ตลอด
ในการค้นคว้าหาสิ่งต่างๆที่ใหม่ ทันสมัย เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ และความสามารถ
ของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
โปรแกรม Microsoft Office ต่างๆ
โปรแกรม iMovie, iDVD, Power Director
โปรแกรมในตระกูล Adobe บางตัวเช่น Photoshop
โปรแกรม Photoscape
แผนในอนาคต
MBA ค่ะ อาจเรียนที่ประเทศไทย หรือต่างประเทศ
แล้วก็อยากเรียนภาษาจีนต่อ ที่เมืองจีนเลยค่ะ
ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง และนำความรู้ที่เรียนในวิชาเอกเทคโนไปใช้ให้มากที่สุด
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำงานด้วยนะ
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)