สิ่งที่ได้เรียนรู้
- present ผลงานความคืบหน้า ของเว้บไซต์
- การย้ายเว็บ Joomla ไปยัง server จริง
Step 1.
เราจะต้องดู server ที่เราจะนำไปฝากไว้ครับว่าเขารองรับ CMS Joomla หรือป่าว
Step 2.
แบ็คอัพเว็บไซต์เราก่อน เพื่อความปลอดภัย
Step 3.
Export ไฟล์ฐานข้อมูลของเว็บไซต์ออกมา ชนิดของไฟล์ฐานข้อมูลที่ดีที่สุดก็คือไฟล์แบบ SQL
Step 4.
แก้ไขไฟล์ configuration.php หลักการของขั้นตอนนี้ก็คือ ทุกเว็บไซต์ที่สร้างด้วย Joomla รายละเอียดการทำงานของเว็บไซต์ จะถูกบันทึกเก็บเป็นค่าไว้ในไฟล์ configuration.php และไฟล์นี้จะอยู่ที่ไดเรกทอรีรากของเว็บไซต์ ในไฟล์นี้จะบันทึกค่ารายละเอียดพื้นฐานของเว็บไซต์ ที่นำไปใช้กำหนดค่าการทำงานในทุกส่วนของเว็บไซต์ โดยหลักๆที่เราต้องแก้ก็คือ
- var $host ชื่อโฮสต์ของเว็บเซิร์ฟเวอร์ (โฮสต์ของดาต้าเบส) ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ชื่อ localhost กัน แต่ถ้าโฮสติ้งแห่งใหม่ที่ไปใช้บริการตั้งค่าเป็นชื่ออื่น ก็ต้องเปลี่ยนค่าตรงนี้ให้ตรงกับชื่อใหม่ด้วย ซึ่งถ้าเป็นของฮาวโฮสก็คือ localhost ครับ
- var $user ชื่อผู้ใช้ฐานข้อมูล เปลี่ยนเป็นชื่อที่กำหนดขึ้นบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ของโฮสติ้ง
- var $password รหัสผ่านใหม่ สำหรับเข้าใช้ฐานข้อมูล
- var $db ชื่อไฟล์ฐานข้อมูลใหม่
- var $ftp_host ชื่อโฮสต์ของ FTP ให้เราใส่เป็น ftp.domain.com ครับ
- var $ftp_port หมายเลขพอร์ตของ FTP จะเป็น 21
- var $ftp_user ชื่อผู้ใช้งาน FTP
- var $ftp_pass รหัสผ่านผู้ใช้งาน FTP
- var $ftp_root ตำแหน่งราก (root) ของการใช้ FTP เข้าถึงเว็บไซต์
- var $tmp_path ตำแหน่งบนฮาร์ดดิสก์จริง (Absolute path) ของไดเรกทอรี่ tmp ของเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ เช่น ถ้าเป็นของฮาวโฮสก็จะเป็น /var/www/vhosts/domain.com/httpdocs/tmp
- var $log_path ตำแหน่งบนฮาร์ดดิสก์จริง (Absolute path) ของไดเรกทอรี่ logs ของเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ เช่น ถ้าเป็นของฮาวโฮสก็จะเป็น /var/www/vhosts/domain.com/httpdocs/logs
- var $live_site เป็นค่า URL ของเว็บไซต์ เช่น “http://www.example.com” หรือ “http://www.example.com/joomla” เป็นต้น
เมื่อแก้ไขทั้งหมดเสร็จแล้ว ให้เซฟไว้ที่เดิม
Step 5.
อัพโหลดทุกไฟล์ไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใหม่โดยใช้ FTP เช่น filezilla
Step 6.
Import ฐานข้อมูลของเราขึ้นไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยผ่าน phpmyadmin ของเซิร์ฟเวอร์นั่นๆ โดยสามารถดูวิธีการ import ฐานข้อมูลได้จาก http://killthewhat.com/plesk-panel/import-database/
Step 7.
ทดลองเข้าเว็บไซต์ของเราว่าเป็นยังงัย มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ เพียงเท่านี้เราก็จะย้ายสำเร็จแล้ว
เว็บที่แนะนำในการอัพโหลด joomla ที่เราได้ทำขึ้นค่ะ http://www.thport.com/
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- ปรับแก้ และใส่เนื้อหาในเว็บไซต์เพิ่มเติม
ข้อเสนอแนะ
วันนี้เป็นการเรียนที่มีความสุขที่สุดเลยค่ะ ไม่เครียดด้วย ได้ทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆ
และยังได้รับ comment จากอาจารย์ และได้ดูผลงานของเพื่อนๆด้วยค่ะ
วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553
Learning Log 08
สิ่งที่ได้เรียนรู้
- การเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้กับเว็บของเรา เพื่อแทนที่โลโก้ Joomla โดยจะต้องเซฟชื่อ และนามสกุลไฟล์ให้เหมือนเดิม แล้ว replace ไป
- สร้าง Article, มุมสมาชิก, เพิ่มเมนูต่างๆ
- มีเพื่อนๆมาสอนเรื่องเทคนิคต่างๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Joomla
อย่างเช่น มีโฆษณา pop up ขึ้นมา , เปลี่ยน icon ของ Joomla มาเป็นของเราเอง
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- Install Joomla ในเครื่องให้ได้
- กลับไปศึกษา เพิ่มเติม
- ค้นคว้า และกำหนดเนื้อหาคร่าวๆ ที่จะทำ
ข้อเสนอแนะ
- ดูงงๆ กับ Joomla ค่ะ อาจเป็นเพราะไม่ได้ศึกษามาก่อน เพราะว่า labtopไม่สามารถ install Joomla ได้
แต่ แบ๋มได้บอกวิธีแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วค่ะ
- การเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้กับเว็บของเรา เพื่อแทนที่โลโก้ Joomla โดยจะต้องเซฟชื่อ และนามสกุลไฟล์ให้เหมือนเดิม แล้ว replace ไป
- สร้าง Article, มุมสมาชิก, เพิ่มเมนูต่างๆ
- มีเพื่อนๆมาสอนเรื่องเทคนิคต่างๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Joomla
อย่างเช่น มีโฆษณา pop up ขึ้นมา , เปลี่ยน icon ของ Joomla มาเป็นของเราเอง
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- Install Joomla ในเครื่องให้ได้
- กลับไปศึกษา เพิ่มเติม
- ค้นคว้า และกำหนดเนื้อหาคร่าวๆ ที่จะทำ
ข้อเสนอแนะ
- ดูงงๆ กับ Joomla ค่ะ อาจเป็นเพราะไม่ได้ศึกษามาก่อน เพราะว่า labtopไม่สามารถ install Joomla ได้
แต่ แบ๋มได้บอกวิธีแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วค่ะ
วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553
Learning Log Week07
สิ่งที่ได้เรียนรู้
CMS
-ระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไชต์สำเร็จรูป
-ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม
-จะมีโปรแกรมที่พร้อมใช้งานมากมายเช่น News, Review,Member, search, download เป็นต้น
Software ที่ใช้ CMS ในการสร้าง
- WordPress : เดิมป็นซอฟแวร์ที่ใช้ในการสร้างบล๊อกเท่านั้น ต่อมาได้พัฒนาขึ้น มีระบบยืดหยุ่นในการทำงาน และมีผู้สร้างธีม และอื่นๆ อีกมากมาย หน่วยงานที่ใช้ wordpress คือ CNN
- Drupal : เนื้อหาและ content ต่างจะถูกเก็บในฐานข้อมูลในรูปแบบของ Dynamic
- Mambo : เป็นระบบ CMS เคยเป็นต้นแบบของ Joomla
- Joomla : เป็น CMS ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สามารถปรับแต่งเว็บได้ตามต้องการ ตกแต่งเทมเพลท เป็นต้น
LMS
- ระบบที่นำเสนอความรู้ จัดเก็บข้อมูลเพื่อติดตามสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น และสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
e-learning ให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยเป็นสภาพแวดล้อมทางการเรียนการสอน และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างบทเรียน สร้างแบบทดสอบ จัดการประเมิน เป็นต้น
- Blackboard เป็น LMS ระบบหนึ่งที่จุฬาฯให้นิสิต และอาจารย์ใช้กัน
ข้อจำกัด : เป็นซอฟแวร์ที่มีลิขสิทธิ์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทางระบบ และไม่มีความยิดหยุ่นในการปรับรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องการ
- TCU มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย
เพื่อตอบสนองความต้องการ และสามารถเผยแพร่ได้
- Sakai Project
ช่วยเหลือและสนับสนุนสถานศึกษาต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ โดยใช้ระบบซาไกได้เลย
- ATutor
ได้รับการออกแบบ และสามารถตกแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถพัฒนาเนื้อหาออนไลน์ได้
- Moodle
ได้รีบความนิยมมากสุด มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลาย สามารถช่วยให้ผู้สอนจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อจำกัดคือ การออกแบบโครงสร้างที่ตายตัว ไม่สามารถปรับแต่งให้สวยเหมือนกับ LMS อื่นๆได้
- Learnsquare
เป็นการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถเรียนโต้ตอบได้เหมือนห้องเรียนปกติ ที่เป็นมัลติมีเดีย เหมือนผู้เรียนเรียนอยู่ในห้อง
Joomla!
Front- End
มีองค์ประกอบย่อยๆ หลายๆส่วน เรียกว่า Module
Latest News แสดงบทความล่าสุด
Popular แสดงบทความที่มีคนเข้าดูล่าสุด
Polls เก็บรวบรวมข้อมูล แสดงผลทางสถิติ
Search หาข้อมูลภายในเว็บไซต์
Main menu แสดงเมนูหลัก
Resources เมนูไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ
Back-End
http://localhost/joomla/administrator/
site จัดการเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลหลักๆ เช่น การตั้งค่าเบื้องต้นของเว็บไซต์
menu จัดการเมนู และลิ้งเชื่อมโยงในแต่ละเมนู
content จัดการกลุ่มของบทความ
components ปรับตั้งค่าการทำงานของคอมโพเนนท์ต่างๆของเว็บ
extensions ใช้install และลบextension ต่างๆ รวมถึงการตั้งค่าของ extension อื่นๆ
tools รวบรวมเครื่องมือต่างๆ
help รวบรวมข้อมูลในการช่วยเหลือ
Extension Template
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
ศึกษาและทบทวนการทำงานของ Joomla
เตรียมการ present WQ ในสัปดาห์หน้า
ข้อเสนอแนะ
- อยาก present WQ ค่ะ อาจารย์ อุตส่าห์เตรียมตัวมา แต่ก็โอเคค่ะ เลื่อนไปอีกอาทิตย์นึง สามารถตรวจทานความเรียบร้อยของงานได้มากขึ้น
- ไม่อยากมีสอบปลายภาคค่ะ ขอแค่ส่งงานอย่างเดียวพอ จะได้มีเวลาในการทำงาน ไม่ต้องกังวลเรื่องสอบ
- ไม่น่าจะสอนเกิน 4.30 pm อะคะ เพราะดูทุกคนเริ่มๆ ล้ากับการเรียนแล้ว
สอนไปแค่ไหน แต่ร่างกาย สมองเราไม่ไหวแล้วก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ อาจารย์ (ตรงช่วงที่พี่ TA มาสอนเพิ่ม ถึงมันจะน่าสนใจจริงๆ แต่ก็เหนื่อยกันหมดแล้ว แถมยังต้องมานั่งแก้อะไรอีก สมองไม่รับแล้วค่ะอาจารย์)
CMS
-ระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไชต์สำเร็จรูป
-ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม
-จะมีโปรแกรมที่พร้อมใช้งานมากมายเช่น News, Review,Member, search, download เป็นต้น
Software ที่ใช้ CMS ในการสร้าง
- WordPress : เดิมป็นซอฟแวร์ที่ใช้ในการสร้างบล๊อกเท่านั้น ต่อมาได้พัฒนาขึ้น มีระบบยืดหยุ่นในการทำงาน และมีผู้สร้างธีม และอื่นๆ อีกมากมาย หน่วยงานที่ใช้ wordpress คือ CNN
- Drupal : เนื้อหาและ content ต่างจะถูกเก็บในฐานข้อมูลในรูปแบบของ Dynamic
- Mambo : เป็นระบบ CMS เคยเป็นต้นแบบของ Joomla
- Joomla : เป็น CMS ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สามารถปรับแต่งเว็บได้ตามต้องการ ตกแต่งเทมเพลท เป็นต้น
LMS
- ระบบที่นำเสนอความรู้ จัดเก็บข้อมูลเพื่อติดตามสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น และสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
e-learning ให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยเป็นสภาพแวดล้อมทางการเรียนการสอน และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างบทเรียน สร้างแบบทดสอบ จัดการประเมิน เป็นต้น
- Blackboard เป็น LMS ระบบหนึ่งที่จุฬาฯให้นิสิต และอาจารย์ใช้กัน
ข้อจำกัด : เป็นซอฟแวร์ที่มีลิขสิทธิ์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทางระบบ และไม่มีความยิดหยุ่นในการปรับรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องการ
- TCU มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย
เพื่อตอบสนองความต้องการ และสามารถเผยแพร่ได้
- Sakai Project
ช่วยเหลือและสนับสนุนสถานศึกษาต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ โดยใช้ระบบซาไกได้เลย
- ATutor
ได้รับการออกแบบ และสามารถตกแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถพัฒนาเนื้อหาออนไลน์ได้
- Moodle
ได้รีบความนิยมมากสุด มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลาย สามารถช่วยให้ผู้สอนจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อจำกัดคือ การออกแบบโครงสร้างที่ตายตัว ไม่สามารถปรับแต่งให้สวยเหมือนกับ LMS อื่นๆได้
- Learnsquare
เป็นการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถเรียนโต้ตอบได้เหมือนห้องเรียนปกติ ที่เป็นมัลติมีเดีย เหมือนผู้เรียนเรียนอยู่ในห้อง
Joomla!
Front- End
มีองค์ประกอบย่อยๆ หลายๆส่วน เรียกว่า Module
Latest News แสดงบทความล่าสุด
Popular แสดงบทความที่มีคนเข้าดูล่าสุด
Polls เก็บรวบรวมข้อมูล แสดงผลทางสถิติ
Search หาข้อมูลภายในเว็บไซต์
Main menu แสดงเมนูหลัก
Resources เมนูไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ
Back-End
http://localhost/joomla/administrator/
site จัดการเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลหลักๆ เช่น การตั้งค่าเบื้องต้นของเว็บไซต์
menu จัดการเมนู และลิ้งเชื่อมโยงในแต่ละเมนู
content จัดการกลุ่มของบทความ
components ปรับตั้งค่าการทำงานของคอมโพเนนท์ต่างๆของเว็บ
extensions ใช้install และลบextension ต่างๆ รวมถึงการตั้งค่าของ extension อื่นๆ
tools รวบรวมเครื่องมือต่างๆ
help รวบรวมข้อมูลในการช่วยเหลือ
Extension Template
Joomla แบ่งการทำงานโดยแบ่งแยกข้อมูลในเว็บไซต์และการแสดงผลออกจากกัน นั้นหมายความว่า เมื่อต้องการเปลี่ยนหน้าตาของเว็บไซต์ ก็เพียงแต่เปลี่ยน Template ของเว็บไซต์ใหม่เท่านั้น
Template คือ รูปร่างหน้าตาของเว็บไซต์ทั้งหมดที่แสดงผลทางเวบไซต์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ร่วมกันในทุกๆหน้าของเว็บไซต์ มีความเป็นเอกภาพและความเหมือนกันทั้งเว็บไซต์ โดยในแต่ละ Template จะประกอบด้วยไฟล์หลายประเภท ทั้งไฟล์ภาษาPHP ไฟล์ภาพ โดยในTemplate นั้น จะมีทั้ง Freeware และ commercial ให้เลือกดาวน์โหลด
นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้การปรับแต่ง Joomla ของเราทั้งการสร้างเมนู ใส่ Article ปรับแต่ง Template แก้ภาษา และฟังก์ชั่นอื่นๆอีกมากมาย
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
ศึกษาและทบทวนการทำงานของ Joomla
เตรียมการ present WQ ในสัปดาห์หน้า
ข้อเสนอแนะ
- อยาก present WQ ค่ะ อาจารย์ อุตส่าห์เตรียมตัวมา แต่ก็โอเคค่ะ เลื่อนไปอีกอาทิตย์นึง สามารถตรวจทานความเรียบร้อยของงานได้มากขึ้น
- ไม่อยากมีสอบปลายภาคค่ะ ขอแค่ส่งงานอย่างเดียวพอ จะได้มีเวลาในการทำงาน ไม่ต้องกังวลเรื่องสอบ
- ไม่น่าจะสอนเกิน 4.30 pm อะคะ เพราะดูทุกคนเริ่มๆ ล้ากับการเรียนแล้ว
สอนไปแค่ไหน แต่ร่างกาย สมองเราไม่ไหวแล้วก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ อาจารย์ (ตรงช่วงที่พี่ TA มาสอนเพิ่ม ถึงมันจะน่าสนใจจริงๆ แต่ก็เหนื่อยกันหมดแล้ว แถมยังต้องมานั่งแก้อะไรอีก สมองไม่รับแล้วค่ะอาจารย์)
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552
Learning Log Week 6
สิ่งที่เรียนรู้
วันนี้เป็นการนำเสนอผลงานเวบเควสท์ที่ได้ทำเป็นคู่ให้อาจารย์แนะนำ
เว็บเควสท์ของเราได้ทำเรื่อง easy german for beginner โดยใ้ช้ธีมของงานเป็นโทนสีของธงชาติเยอรมัน
คือ ดำ แดง เหลือง โดยสีดำนั้น จะใช้เป็นส่วนน้อย จะใช้โทนสีเทาเข้ามาช่วยแทน
ความคืบหน้าในการดำเนินงาน ตอนนี้ถือว่า 50% ค่ะ หลังจากที่ได้นำเสนอให้อาจารย์และ พี่ TA ช่วยแนะนำ
ก็มีความผิดพลาดค่อนข้างเยอะ เช่น size ของต่ละส่วนนั้น ขนาดใหญ่เกินไป และการทำ link ยังไม่สมบูรณ์
เมื่ออาจารย์ได้แนะนำแล้ว ทำให้เราสามารถพัฒนาผลงานต่อไปได้อย่างดค่ะ นอกจากนี้เรายังได้เห็นผลงานของเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มที่ดูอลังการงานสร้างกันมากๆ ก็ทำให้เรามีกำลังใจ และแรงผลักดันในการทำผลงานของเราให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และทำให้สำเร็จตรงตามเป้าหมายค่ะ
สิ่งที่จะทำเพิ่มเติม
ปรับปรุงผลงานของเราให้ดีขึ้น ตามคำแนะนำของอาจารย์และพี่ TA
เพิ่มเติม เนื้อหา และลิ้งต่างๆ ในแต่ละหน้า
ข้อเสนอแนะ
การที่อาจารย์ได้ให้ทุกๆคนออกมานำเสนอความคืบหน้าของผลงานตัวเอง เป็นวิธีที่ดีมากๆค่ะ เพราะทำให้เราได้ค่อยๆทะยอยทำงาน ไปทีละเล็กละน้อย และสามารถแก้ไขงานได้เรื่อยๆ ไม่ทำให้เราติดนิสัยเดิมๆกัน ที่จะชอบดองงานจนถึงวันสุดท้าย นอกจากนี้ยังทำให้เรามีความกะตือรือร้นในการทำงานมากยิ่งขึ้นค่ะ ^^
วันนี้เป็นการนำเสนอผลงานเวบเควสท์ที่ได้ทำเป็นคู่ให้อาจารย์แนะนำ
เว็บเควสท์ของเราได้ทำเรื่อง easy german for beginner โดยใ้ช้ธีมของงานเป็นโทนสีของธงชาติเยอรมัน
คือ ดำ แดง เหลือง โดยสีดำนั้น จะใช้เป็นส่วนน้อย จะใช้โทนสีเทาเข้ามาช่วยแทน
ความคืบหน้าในการดำเนินงาน ตอนนี้ถือว่า 50% ค่ะ หลังจากที่ได้นำเสนอให้อาจารย์และ พี่ TA ช่วยแนะนำ
ก็มีความผิดพลาดค่อนข้างเยอะ เช่น size ของต่ละส่วนนั้น ขนาดใหญ่เกินไป และการทำ link ยังไม่สมบูรณ์
เมื่ออาจารย์ได้แนะนำแล้ว ทำให้เราสามารถพัฒนาผลงานต่อไปได้อย่างดค่ะ นอกจากนี้เรายังได้เห็นผลงานของเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มที่ดูอลังการงานสร้างกันมากๆ ก็ทำให้เรามีกำลังใจ และแรงผลักดันในการทำผลงานของเราให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และทำให้สำเร็จตรงตามเป้าหมายค่ะ
สิ่งที่จะทำเพิ่มเติม
ปรับปรุงผลงานของเราให้ดีขึ้น ตามคำแนะนำของอาจารย์และพี่ TA
เพิ่มเติม เนื้อหา และลิ้งต่างๆ ในแต่ละหน้า
ข้อเสนอแนะ
การที่อาจารย์ได้ให้ทุกๆคนออกมานำเสนอความคืบหน้าของผลงานตัวเอง เป็นวิธีที่ดีมากๆค่ะ เพราะทำให้เราได้ค่อยๆทะยอยทำงาน ไปทีละเล็กละน้อย และสามารถแก้ไขงานได้เรื่อยๆ ไม่ทำให้เราติดนิสัยเดิมๆกัน ที่จะชอบดองงานจนถึงวันสุดท้าย นอกจากนี้ยังทำให้เรามีความกะตือรือร้นในการทำงานมากยิ่งขึ้นค่ะ ^^
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 5
สิ่งที่ได้เรียนรู้
วิธีการทำเว็บเควสท์ โดยใช้โปรแกรม DreamWeaver
ทั้งการสร้างหน้าเว็บ และการลิงค์ไปยังหน้าต่างๆ
การตั้งค่า Site
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะลงมือสร้างwebsiteใน Dream Weaver จะทำให้ไฟล์ที่สร้างรวมอยู่ที่เดียวกัน และเชื่อมโยงกับไฟล์ต่างๆ
- เปิดโปรแกรม Dream Weaver
- menu site >> manage sites >> new >> site >> ระบุ site ที่ต้องการ >> เราจะสร้าง web ที่เป็น html ให้คลิก no >> ระบุตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ >> ตั้งค่า remote server ให้เลือก none >> done
- กลับมาที่หน้า manage site ให้เลือก site ที่เราสร้าง >> Done
- สร้างเว็บมาหนึ่งอัน โดย >> create new >> html >> file >> save as >> save
ไฟล์จะถูกบันทึกไว้ใน folder ที่เราตั้งค่าไว้
การตั้งค่าภาษา
ก่อนที่จะสร้าง web เราต้องตั้งค่าภาษาให้สมบูรณ์เพื่อให้ web ของเราแสดงภาษาได้ถูกต้อง
ปัจจุบันได้เปลี่นร code ใหม่เป็น Unicode UTFS8 จาก window 874
- page properties >> title encoding >> Unicode UTFS8
การตั้งค่า webpage เบื้องต้น
-page properties
Appearance >> กำหนดการแสดงผลทั่วไป เช่น font ขนาด สี background
Link >> กำหนดตัวเชื่อมโยงใน webpage เช่น สีของ font
Heading >> กำหนดรูปแบบหัวข้อที่ใช้ใน webpage
Title & Encoding >> ตั้งชื่อให้หัวของ webpage ที่อยู่บน web browser , ตั้งค่าภาษา
Tracing Image >> นำเอาภาพมาวางบนหน้า website ภาพจะเหมือนแผ่นใส จะไม่มีรูปจริงบน web browser ของเรา
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
แก้ไขผลงานเว็บเควสท์ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ทบทวนการใช้งาน DreamWeaver จากคลิปที่อาจารย์ได้จัดทำมาให้
ข้อเสนอแนะ
-การเรียนที่สาธิตในห้องเรียน ทำให้งง ตามไม่ทันค่ะ แล้วก็ไม่รู้เรื่องด้วย การเรียนแบบที่ดูตามคลิปที่อาจารย์ทำมาจะเข้าใจมากกว่าค่ะ เพราะสามารถทำตามได้และถูกต้อง
แต่เมื่อมาแสดงตัวอย่างให้ดู กลับทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ สับสน และงงมากๆด้วยค่ะ น่าจะต่างคนต่างทำ ตามคลิปที่อาจารย์สอนจะดีกว่า เพราะทำตามความสามารถของตัวเอง ไม่ต้องรีบ ร้อนรนตามที่เพื่อนมาสาธิตให้ดูด้วยค่ะ
-คลิปที่อาจารย์จทำขึ้นมา เข้าใจง่ายดีค่ะ สามารถเรียนที่บ้านได้ โดยที่ไม่ต้องมาเรียนในห้องเรียนค่ะ
วิธีการทำเว็บเควสท์ โดยใช้โปรแกรม DreamWeaver
ทั้งการสร้างหน้าเว็บ และการลิงค์ไปยังหน้าต่างๆ
การตั้งค่า Site
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะลงมือสร้างwebsiteใน Dream Weaver จะทำให้ไฟล์ที่สร้างรวมอยู่ที่เดียวกัน และเชื่อมโยงกับไฟล์ต่างๆ
- เปิดโปรแกรม Dream Weaver
- menu site >> manage sites >> new >> site >> ระบุ site ที่ต้องการ >> เราจะสร้าง web ที่เป็น html ให้คลิก no >> ระบุตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ >> ตั้งค่า remote server ให้เลือก none >> done
- กลับมาที่หน้า manage site ให้เลือก site ที่เราสร้าง >> Done
- สร้างเว็บมาหนึ่งอัน โดย >> create new >> html >> file >> save as >> save
ไฟล์จะถูกบันทึกไว้ใน folder ที่เราตั้งค่าไว้
การตั้งค่าภาษา
ก่อนที่จะสร้าง web เราต้องตั้งค่าภาษาให้สมบูรณ์เพื่อให้ web ของเราแสดงภาษาได้ถูกต้อง
ปัจจุบันได้เปลี่นร code ใหม่เป็น Unicode UTFS8 จาก window 874
- page properties >> title encoding >> Unicode UTFS8
การตั้งค่า webpage เบื้องต้น
-page properties
Appearance >> กำหนดการแสดงผลทั่วไป เช่น font ขนาด สี background
Link >> กำหนดตัวเชื่อมโยงใน webpage เช่น สีของ font
Heading >> กำหนดรูปแบบหัวข้อที่ใช้ใน webpage
Title & Encoding >> ตั้งชื่อให้หัวของ webpage ที่อยู่บน web browser , ตั้งค่าภาษา
Tracing Image >> นำเอาภาพมาวางบนหน้า website ภาพจะเหมือนแผ่นใส จะไม่มีรูปจริงบน web browser ของเรา
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
แก้ไขผลงานเว็บเควสท์ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ทบทวนการใช้งาน DreamWeaver จากคลิปที่อาจารย์ได้จัดทำมาให้
ข้อเสนอแนะ
-การเรียนที่สาธิตในห้องเรียน ทำให้งง ตามไม่ทันค่ะ แล้วก็ไม่รู้เรื่องด้วย การเรียนแบบที่ดูตามคลิปที่อาจารย์ทำมาจะเข้าใจมากกว่าค่ะ เพราะสามารถทำตามได้และถูกต้อง
แต่เมื่อมาแสดงตัวอย่างให้ดู กลับทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ สับสน และงงมากๆด้วยค่ะ น่าจะต่างคนต่างทำ ตามคลิปที่อาจารย์สอนจะดีกว่า เพราะทำตามความสามารถของตัวเอง ไม่ต้องรีบ ร้อนรนตามที่เพื่อนมาสาธิตให้ดูด้วยค่ะ
-คลิปที่อาจารย์จทำขึ้นมา เข้าใจง่ายดีค่ะ สามารถเรียนที่บ้านได้ โดยที่ไม่ต้องมาเรียนในห้องเรียนค่ะ
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 4
สิ่งที่ได้เรียนรู้
- หลักการในการออกแบบเว็บเควสท์ที่เพื่อนๆได้ทำมา ทำให้เราได้ตัวอย่างดีๆ และคำแนะนำของเพื่อนๆ และอาจารย์ เพื่อนำกลับไปปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
1. การทำ Image Ready สนุกดีค่ะ ดูไม่ยากเลย อาจารย์อธิบายละเอียดดีค่ะ
2. การใช้ Slice ในการสร้าง web
3. วิธีการกำหนดการเชื่อมโยงให้กับ Slice
-คลิกขวาที่ Slice ที่เราจะลิงค์ไป
-ช่อง url ให้ระบุ web ที่เราลิงค์
-ช่อง target ระบุรูปแบบการ link
-Message Text ระบุข้อความที่แสดงเมื่อเม้าส์อยู่เหนือช่อง
-Alt Tag ระบุข้อความกำกับภาพ
4.การบันทึก Slice เป็น Webpage
-file >> save for web >> กำหนดเป็น JPEG เพื่อไฟล์จะมีขนาดเล็ก และคุณภาพสีดี
-HTML & Imagesw >> ผลที่ได้ไฟล์จะเป็น .html
ภาพจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆตามที่เรา slice ไว้
แต่ถ้าดูใน browser ก็จะเป็น web ปกติ แล้วก็สามารถ link ไปหน้าอื่นๆได้
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- ปรับปรุงเนื้อหาให้มีลักษณะที่เป็น webquest จริงๆ
- ค้นคว้าและรวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวกับ ประเทศเยอรมันที่จะทำลง webquest ให้มากยิ่งขึ้น
- ออกแบบ หน้าwebquest ใหม่ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
-วันนี้เรียนสบายๆดีค่ะ ดูไม่ยาก ไม่รนในการทำงาน
-ชอบที่อาจารย์มีสอน ImageReady เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะใช้โปรแกรมนี้หรือว่า SwishMax ดี
แต่จะลองทำ ImageReady ตามที่อาจารย์ได้สอนดูค่ะ เพราะดูเหมือนจะไม่ยากมาก
-อยากให้อาจารย์สอน SwishMax ด้วยค่ะ ^^
- หลักการในการออกแบบเว็บเควสท์ที่เพื่อนๆได้ทำมา ทำให้เราได้ตัวอย่างดีๆ และคำแนะนำของเพื่อนๆ และอาจารย์ เพื่อนำกลับไปปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
1. การทำ Image Ready สนุกดีค่ะ ดูไม่ยากเลย อาจารย์อธิบายละเอียดดีค่ะ
2. การใช้ Slice ในการสร้าง web
3. วิธีการกำหนดการเชื่อมโยงให้กับ Slice
-คลิกขวาที่ Slice ที่เราจะลิงค์ไป
-ช่อง url ให้ระบุ web ที่เราลิงค์
-ช่อง target ระบุรูปแบบการ link
-Message Text ระบุข้อความที่แสดงเมื่อเม้าส์อยู่เหนือช่อง
-Alt Tag ระบุข้อความกำกับภาพ
4.การบันทึก Slice เป็น Webpage
-file >> save for web >> กำหนดเป็น JPEG เพื่อไฟล์จะมีขนาดเล็ก และคุณภาพสีดี
-HTML & Imagesw >> ผลที่ได้ไฟล์จะเป็น .html
ภาพจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆตามที่เรา slice ไว้
แต่ถ้าดูใน browser ก็จะเป็น web ปกติ แล้วก็สามารถ link ไปหน้าอื่นๆได้
สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม
- ปรับปรุงเนื้อหาให้มีลักษณะที่เป็น webquest จริงๆ
- ค้นคว้าและรวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวกับ ประเทศเยอรมันที่จะทำลง webquest ให้มากยิ่งขึ้น
- ออกแบบ หน้าwebquest ใหม่ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
-วันนี้เรียนสบายๆดีค่ะ ดูไม่ยาก ไม่รนในการทำงาน
-ชอบที่อาจารย์มีสอน ImageReady เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะใช้โปรแกรมนี้หรือว่า SwishMax ดี
แต่จะลองทำ ImageReady ตามที่อาจารย์ได้สอนดูค่ะ เพราะดูเหมือนจะไม่ยากมาก
-อยากให้อาจารย์สอน SwishMax ด้วยค่ะ ^^
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Learning Log Week 3
สิ่งที่ได้เรียนรู้
ADDIE Model >> ISD Model
1. Analyze : การวิเคราะห์ ประกอบด้วย 3 หัวข้อย่อยๆ คือ
- goal : วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน
-audience : วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
-environment : วิเคราะห์บริบทต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เป็นต้น
2. Design : การออกแบบ
- site structure
- storyboard
- interface design
*rapid prototype >> การออกแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะไปพัฒนาจริง
3. Develop : การพัฒนา เป็นขั้นตอนที่เชื่อมต่อจาก rapid prototype ถ้าได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะดำเนินการต่อไปได้
- tools : ซอฟแวร์ที่มีทั้งเสียง วิดิโอ
- team : ทีมในการออกแบบเว็บ ทีมกราฟิก ทีมตัดต่อ เป็นต้น
4. Implement : การนำไปใช้
- pilots : การนำไปทดลองใช้ เพื่อนำฟีดแบคมาปรับปรุงกับงานของเรา
- rollout plan
5. Evaluation : การประเมินผล
- SMES : ดูทั้งด้านเนื้อหาต่างๆ
- audience : บทเรียนของเราเมื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไรบ้าง
Analyze
การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน ผู้เรียน พื้นฐานของผู้เรียน เนื้อหา แหล่งข้อมูล สื่อที่เหมาะสม
Design
การกำหนดโครงสร้าง แผน ขั้นตอนการดำเนินงาน และการประเมินบทเรียนอย่างเป็นระบบ
Development
ดำเนินการตาม storyboard ที่เราได้ร่างไว้
Implementation
การนำบทเรียนที่สร้างเสร็จไปใช้จริง กับกลุ่มเป้าหมายของเรา คืออาจเป็นทั้งผู้สอน และผู้เรียนก็ได้
Evaluation
การประเมินผลระหว่างขั้นตอนพัฒนา เพื่อเป็นการนำข้อมูลไปปรับปรุง ในการดำเนินงานครั้งต่อไป
การประเมินผลเมื่อพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เป็นการเปิดโอกาสความคิดเห็นจากผู้ที่ใช้งานจริง ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนนั้นหรือไม่
GAGNE
1. Gain Attention : เรียกความสนใจจากผู้เรียน นำวิดิโอ ภาพ เสียง มาใช้ในการเรียนการสอน
2. Inform learners Objects : แจ้งให้ผู้เรียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียนนั้นๆ
3. Stimulate recall of prior learning : การกระตุ้นความรู้เดิม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ เช่น .
การทำ pre-test การถามตอบ
4. Present the content : การนำเสนอเนื้อหา อาจเป็นpowerpoint , e-book
5. Provide learning guidance : การให้คำแนะนำระหว่างการเรียน ผู้สอนสามารถโพสท์คำถามที่พบบ่อยๆ
หรือตั้งปุ่ม help
6. Elicit performance : กาตตรวจสอบดูว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ สามารถใช้ discussion board หรือ
email
7. Provide feedback : สามารถผ่านใช้ผ่านทาง email, discussion board ก็ได้
8. Assess performance : การประเมินผลว่าผู้เรียนบรรลุตรงตามวัตถุงประสงค์ของเราหรือไม่ ควรมีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น เช็กจากการเข้ารวมกิจกรรมที่ผู้สอนได้จัดไว้
9. Enhance retention & transfer to the job : การนำไปใช้ในชีวิตจริง
หลักในการออกแบบ WBI
1. เนื้อหา
-กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
-เลือกสี ข้อความ ภาพที่เหมาะสม
-การใช้หัวข้อใหญ่ และย่อย เพื่อแยกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน
-ใช้ภาษาที่ง่าย กระชับ
-นำสื่อประสมมาใช้ เช่น ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดิโอ เพื่อดึงดูดความสนใจ
-การใช้ตาราง ทำให้เกิดความชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
2. กิจกรรม
จะส่งเสริมให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-ประสานเวลา เช่น chat
-ไม่ประสานเวลา เช่น การสื่อสารผ่าน email, blog
-ร่วมมือ เช่น นำทั้งสองอย่างข้างต้นมาผสมผสานกัน
Page Design
1. Simplicity
รูปแบบที่เรียบง่าย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ภาพเคลื่อนไหวมีไม่มาก เพราะอาจจะรบกวนสายตาของผู้ชมได้
2. Consistency
การสร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์ คือสร้างเป็นรูปแบบเดียวกัน โทนสี ตลอดเดียวกันทั้งเว็บไซต์
3. โทนสี
การเลือกใช้สี มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะให้ความรู้สึก- อารมณ์ - กระตุ้นต่อการรับรู้ต่อผู้ที่เข้าเว็บไซต์ได้เช่นกัน การสร้างสีสันบนเว็บสามารถสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
การออกแบบระบบนำทาง
เป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่หลงทาง
เครื่องนำทาง - เครื่องมือซึ่งให้ผู้ชมเปิดไปยังเว็บเพจภายในเว็บไซต์ มีเมนูหลัก เมนูเฉพาะกลุ่ม
เครื่องมือเสริม
-เข้าถึงง่าย
-สื่อความหมายชัดเจน
-ตอบสนองผู้ใช้
-มีทางเลือกหลากหลาย
-มีลิงค์กลับไปโฮมเพจได้
สิ่งที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
-กลับไปลองออกแบบเว็บเควสท์ของตนเอง
-หาเนื้อหาเพิ่มเติมที่จะทำเว็บเควสท์
ข้อเสนอแนะ
งานเยอะเกินไปค่ะ อาจารย์ ดูสับสนมาก ทำให้ดูน่าเบื่อในการเรียนด้วยค่ะ
การทำงานควรจะให้เป็นงานคู่ค่ะ ไม่ควรทำคนเดียว เพราะเนื้อหา และขั้นตอนในการทำเยอะมาก
อีกทั้งยังมีคนช่วยในการทำงาน และคิดว่างานน่าจะออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นกว่าทำคนเดียว ที่ต้องมีภาระงานอื่นๆเพิ่มเข้ามามากมายค่ะ :):)
ADDIE Model >> ISD Model
1. Analyze : การวิเคราะห์ ประกอบด้วย 3 หัวข้อย่อยๆ คือ
- goal : วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน
-audience : วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
-environment : วิเคราะห์บริบทต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เป็นต้น
2. Design : การออกแบบ
- site structure
- storyboard
- interface design
*rapid prototype >> การออกแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะไปพัฒนาจริง
3. Develop : การพัฒนา เป็นขั้นตอนที่เชื่อมต่อจาก rapid prototype ถ้าได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะดำเนินการต่อไปได้
- tools : ซอฟแวร์ที่มีทั้งเสียง วิดิโอ
- team : ทีมในการออกแบบเว็บ ทีมกราฟิก ทีมตัดต่อ เป็นต้น
4. Implement : การนำไปใช้
- pilots : การนำไปทดลองใช้ เพื่อนำฟีดแบคมาปรับปรุงกับงานของเรา
- rollout plan
5. Evaluation : การประเมินผล
- SMES : ดูทั้งด้านเนื้อหาต่างๆ
- audience : บทเรียนของเราเมื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไรบ้าง
Analyze
การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ของบทเรียน ผู้เรียน พื้นฐานของผู้เรียน เนื้อหา แหล่งข้อมูล สื่อที่เหมาะสม
Design
การกำหนดโครงสร้าง แผน ขั้นตอนการดำเนินงาน และการประเมินบทเรียนอย่างเป็นระบบ
Development
ดำเนินการตาม storyboard ที่เราได้ร่างไว้
Implementation
การนำบทเรียนที่สร้างเสร็จไปใช้จริง กับกลุ่มเป้าหมายของเรา คืออาจเป็นทั้งผู้สอน และผู้เรียนก็ได้
Evaluation
การประเมินผลระหว่างขั้นตอนพัฒนา เพื่อเป็นการนำข้อมูลไปปรับปรุง ในการดำเนินงานครั้งต่อไป
การประเมินผลเมื่อพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เป็นการเปิดโอกาสความคิดเห็นจากผู้ที่ใช้งานจริง ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนนั้นหรือไม่
GAGNE
1. Gain Attention : เรียกความสนใจจากผู้เรียน นำวิดิโอ ภาพ เสียง มาใช้ในการเรียนการสอน
2. Inform learners Objects : แจ้งให้ผู้เรียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียนนั้นๆ
3. Stimulate recall of prior learning : การกระตุ้นความรู้เดิม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ เช่น .
การทำ pre-test การถามตอบ
4. Present the content : การนำเสนอเนื้อหา อาจเป็นpowerpoint , e-book
5. Provide learning guidance : การให้คำแนะนำระหว่างการเรียน ผู้สอนสามารถโพสท์คำถามที่พบบ่อยๆ
หรือตั้งปุ่ม help
6. Elicit performance : กาตตรวจสอบดูว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ สามารถใช้ discussion board หรือ
7. Provide feedback : สามารถผ่านใช้ผ่านทาง email, discussion board ก็ได้
8. Assess performance : การประเมินผลว่าผู้เรียนบรรลุตรงตามวัตถุงประสงค์ของเราหรือไม่ ควรมีการประเมินผลที่หลากหลาย เช่น เช็กจากการเข้ารวมกิจกรรมที่ผู้สอนได้จัดไว้
9. Enhance retention & transfer to the job : การนำไปใช้ในชีวิตจริง
หลักในการออกแบบ WBI
1. เนื้อหา
-กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
-เลือกสี ข้อความ ภาพที่เหมาะสม
-การใช้หัวข้อใหญ่ และย่อย เพื่อแยกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน
-ใช้ภาษาที่ง่าย กระชับ
-นำสื่อประสมมาใช้ เช่น ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดิโอ เพื่อดึงดูดความสนใจ
-การใช้ตาราง ทำให้เกิดความชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
2. กิจกรรม
จะส่งเสริมให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-ประสานเวลา เช่น chat
-ไม่ประสานเวลา เช่น การสื่อสารผ่าน email, blog
-ร่วมมือ เช่น นำทั้งสองอย่างข้างต้นมาผสมผสานกัน
Page Design
1. Simplicity
รูปแบบที่เรียบง่าย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ภาพเคลื่อนไหวมีไม่มาก เพราะอาจจะรบกวนสายตาของผู้ชมได้
2. Consistency
การสร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์ คือสร้างเป็นรูปแบบเดียวกัน โทนสี ตลอดเดียวกันทั้งเว็บไซต์
3. โทนสี
การเลือกใช้สี มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะให้ความรู้สึก- อารมณ์ - กระตุ้นต่อการรับรู้ต่อผู้ที่เข้าเว็บไซต์ได้เช่นกัน การสร้างสีสันบนเว็บสามารถสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
การออกแบบระบบนำทาง
เป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่หลงทาง
เครื่องนำทาง - เครื่องมือซึ่งให้ผู้ชมเปิดไปยังเว็บเพจภายในเว็บไซต์ มีเมนูหลัก เมนูเฉพาะกลุ่ม
เครื่องมือเสริม
-เข้าถึงง่าย
-สื่อความหมายชัดเจน
-ตอบสนองผู้ใช้
-มีทางเลือกหลากหลาย
-มีลิงค์กลับไปโฮมเพจได้
สิ่งที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
-กลับไปลองออกแบบเว็บเควสท์ของตนเอง
-หาเนื้อหาเพิ่มเติมที่จะทำเว็บเควสท์
ข้อเสนอแนะ
งานเยอะเกินไปค่ะ อาจารย์ ดูสับสนมาก ทำให้ดูน่าเบื่อในการเรียนด้วยค่ะ
การทำงานควรจะให้เป็นงานคู่ค่ะ ไม่ควรทำคนเดียว เพราะเนื้อหา และขั้นตอนในการทำเยอะมาก
อีกทั้งยังมีคนช่วยในการทำงาน และคิดว่างานน่าจะออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นกว่าทำคนเดียว ที่ต้องมีภาระงานอื่นๆเพิ่มเข้ามามากมายค่ะ :):)
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)